You are the infinite being

You are the infinite being

 

ตัวเรานั้นเกิดมาเพื่อเรียนรู้และเติบโต…

.
วงจรการเติบโตของเราเป็นคล้ายกับภาพวงจรที่เกิดขึ้นซ้ำๆ คือ A –> B –> C –> A’ 

โดย A –> B เป็นช่วงเวลาที่ชีวิตเราไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เราอยู่กับสถานการณ์ในชีวิตที่เราคุ้นเคย รู้จักดี เหมือนเป็นพื้นที่สบาย (Comfort Zone)


แต่เมื่อชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ทำให้เราต้องรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ซึ่งอาจเป็นด้านใดก็ได้ในวงล้อชีวิต 8 ด้าน เช่น อาชีพ-การย้ายงาน สุขภาพ-ความเจ็บป่วย ความสัมพันธ์-อกหัก ในช่วงเวลานั้น เราจะเหมือนตกลงไปใน C ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการปรับตัว เพื่อพาตัวเองผ่านปัญหา/ความท้าทายนั้นไปให้ได้ บางคนอาจอยู่ใน C ตื้นๆ เปรียบไปก็คล้ายกับการตกลงไปในร่องที่ปีนขึ้นมาได้ไม่ยาก หรือ คล้ายกับรถไฟที่ต้องชะลอความเร็วตอนที่ใกล้ทางเลี้ยวโค้ง แต่บางคนอาจรู้สึกเหมือนตกลงไปในหุบเหวลึก หรือ คล้ายกับรถไฟที่ตกราง และต้องใช้เวลานานกว่าจะทำให้รถไฟกลับมาวิ่งบนรางได้


อย่างไรก็ตาม เมื่อเราเจอ turning point ที่ทำให้เรากลับมา on-track ได้ เราจะค่อยๆปีนต่อไปจนขึ้นไปถึง A’ ซึ่งคือ ตัวตนใหม่ที่เป็นเวอร์ชั่นที่ดีกว่า เก่งกว่า A นั่นก็คือ หนึ่งวงจรของการเติบโตของเรา
.
โดยในแต่ละวงจรการเติบโตที่เกิดขึ้น อาจเป็นด้านอารมณ์ เช่น ทำให้เราเป็นคนที่ใจเย็น มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ดีขึ้น หรือ อาจเป็นด้านความคิด เช่น ทำให้เราเป็นคนที่มีความเข้าใจในเรื่องนั้นดีขึ้น มองเห็นแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดีขึ้น หรือ อาจเป็นด้านจิตวิญญาณ เช่น ทำให้เราเป็นคนที่เข้าใจตัวเองมากขึ้น เข้าใจกลไกของชีวิตมากขึ้น จิตตื่นรู้เกิดปัญญาเห็นสัจธรรมของชีวิต
.
ยิ่งความท้าทาย/ปัญหาชีวิตเป็นระดับที่ใหญ่มากเท่าใด การเติบโตที่เกิดขึ้นก็จะมากเท่านั้น
หากเป็นปัญหาเล็กๆ การเติบโตที่เกิดขึ้นอาจเป็นแค่ด้านอารมณ์ หรือ ความคิด แต่หากเป็นวิกฤตชีวิต เมื่อเราผ่านมาได้ การเติบโตที่เกิดขึ้น จะครอบคลุมทั้งด้านอารมณ์ ความคิด และจิตวิญญาณ เหมือนที่เราอาจเคยได้ยินประสบการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตคนๆหนึ่ง ทำให้เขาเหมือนเกิดใหม่ กลายเป็นคนใหม่หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นมา นั่นคือ ตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงที่ลึกลงไปถึงระดับจิตวิญญาณ / ตัวตนที่อยู่ภายใน
.
ลองมองดูในภาพ ด้านซ้าย คือ วงจรของการเติบโตที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ที่ทำให้เราวิวัฒน์จาก A –> A’ –> A” –> A”’ และยังคงเกิดการเติบโตต่อไปเรื่อยๆตลอดชีวิต โดยทุกครั้งที่เราเติบโตเป็นเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น ความเป็นตัวเราในองค์รวมจะเกิดการเติบโตไปด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นในภาพด้านขวา แม้ว่าจุดเปลี่ยนจะเริ่มมาจากเพียงด้านใดด้านหนึ่งของวงจรชีวิต แต่หลังการเปลี่ยนแปลง ผลที่เกิดขึ้นจะเชื่อมโยงไปหาด้านอื่นๆด้วย
.
อย่างไรก็ตาม ในแต่ละวงจรของการเติบโต มีโอกาสที่จะมีเรื่องที่กระทบกับตัวเรา คล้ายๆบาดแผลจากสงครามบนเส้นทางชีวิต คือ เราสามารถผ่านสนามรบนี้ไปได้ก็จริง แต่บางทีก็ได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อย นั่นคือ ยิ่ง C ลึกเท่าใด ก็ยิ่งมีโอกาสสร้างบาดแผลให้เรามากเท่านั้น สิ่งเหล่านี้ เรียกว่า unresolved issue from event
.
บาดแผลเหล่านี้ เมื่อสะสมมากขึ้น และ ไม่ได้รับการเยียวยา ก็มีโอกาสที่จะเกิดการอักเสบขึ้นได้ ซึ่งอาจสะท้อนออกมาในรูปแบบของความรู้สึก เช่น รู้สึกว่าเหนื่อยจนไม่อยากทำอะไรแล้ว (Burn Out) รู้สึกพลังงานตก (Drained) หรือ บางคนอาจสะท้อนออกมาเป็นปัญหาสุขภาพ เช่น สภาวะกรดไหลย้อน อาการปวดหัว ปวดหลัง เป็นต้น ซึ่งเราคงไม่อยากให้ตัวเองต้องมีเส้นทางการเติบโตที่บั่นทอนพลังชีวิตของตัวเองแบบนั้นแน่…
.
ดังนั้น เราควรจะดูแลตัวเองเพื่อให้การเดินทางและการเติบโตของเรา เป็นไปอย่างสมดุล และสามารถรักษาระดับพลังชีวิตดีๆเอาไว้ได้ด้วย
.
สำหรับแนวทางในการดูแลตัวเองที่โค้ชเก๋ทำมาตลอดเวลา 8 ปี คือ การดูแลแบบองค์รวม (Holistic Way) ที่ใช้ทั้งการโค้ช (Coaching) และ การเยียวยา (Healing) ควบคู่กัน
– การโค้ช มีไว้เพื่อปลดล็อคศักยภาพและทำให้เราเติบโตเป็น (Unlock and Become Better Version)
– การเยียวยา มีไว้เพื่อช่วยดูแลบาดแผลที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในแต่ละวงจรของการเติบโต (Heal the unresolved issue, emotional wound, stress, etc.)

.

“Life Architecture” เราคือสถาบันโค้ชเพื่อพัฒนาศักยภาพและความสำเร็จ ด้วยนวัตกรรมเครื่องมือและโมเดลการโค้ชที่ได้รับการพิสูจน์แล้วและได้รับการรับรองโดยมาตรฐานสากล

เพราะเราเชื่อมั่นว่า “ทุกคนสามารถมีชีวิตที่ใช่ ทำสิ่งที่รักและเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้”

Unlock your true potential and shape the future you desire…

ชีวิตออกแบบได้…
รวมทั้งความสำเร็จของคุณด้วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง 
Line OA : @lifearchitecture