15 Jan ความสำเร็จทางอาชีพ เริ่มต้นที่ความเชื่อ !
ตาม สมการความสำเร็จ ความสำเร็จทางอาชีพ คือผลลัพธ์ของ ศักยภาพ ลบด้วย ตัวบั่นทอนศักยภาพ THE INNER GAME VDO ในตอนที 3 นี้ พูดถึงตัวบั่นทอนศักยภาพ ที่มีชื่อว่า ความเชื่อที่จำกัด ซึ่ง พลังของความเชื่อนั้น ส่งผลต่อความสำเร็จของเรามากกว่าที่คิด ลองไปฟังกันว่า ผลที่ว่านั้นคืออะไร และถ้าเราต้องการเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงความเชื่อ เพื่อเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ที่เกิดกับตัวเราเอง มีวิธีการใดบ้าง
THE INNER GAME VDO เป็นวิดีโอซึ่งโค้ชเก๋ ปิยนุช บุญมา โค้ชกลยุทธ์ชีวิตและธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จัดทำขึ้นเพื่อช่วยคนประสบ ความสำเร็จทางอาชีพ อย่างก้าวกระโดด หากใครต้องการฟังเสียงโค้ชเก๋ ปิยนุช สามารถกดรับฟังได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนะคะ
ตอนที่สาม นำเสนอตัวบั่นศักยภาพอีกสองตัว ได้แก่ ความเชื่อที่จำกัดและความขัดแย้งภายใน
“ความเชื่อที่จำกัด”
เริ่มจากความเชื่อที่จำกัด ตัวนี้นับได้ว่าเป็น ตัวบั่นทอนศักยภาพ ที่คนไทยเป็นกันเยอะ เพราะวัฒนธรรมของคนไทย ที่สอนให้เราอ่อนน้อมถ่อมตน และค่านิยมที่มักจะใช้การตำหนิ หรือเน้นการปรับแก้จุดอ่อนมากกว่าการเน้นย้ำจุดแข็ง ทำให้พวกเราเติบโตขึ้นมาพร้อมกับ ความเชื่อที่จำกัด มากมาย ซึ่งส่งผลต่อ ความสำเร็จทางอาชีพ
พลังของความเชื่อ นั้น ส่งผลอย่างไรกับเรา เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น โค้ชเก๋ ปิยนุช ขอยกตัวอย่างความเชื่อเรื่องโลกแบนนะคะ ในอดีต ตอนที่คนยังเชื่อว่า โลกแบนทำให้คนไม่ค่อยกล้าล่องเรือไปไกลๆ เพราะกลัวจะตกขอบโลก ดินแดนต่างๆ จึงไม่ค่อยมีการถ่ายทอดวัฒนธรรมระหว่างกัน
แต่เมื่อมีการพิสูจน์ว่า แท้ที่จริงแล้วโลกกลมและเราสามารถเดินทางรอบโลกได้ ก็ทำให้เกิดการเปิดกว้างในการสำรวจโลก และนำไปสู่การแลกเปลี่ยนถ่ายทอดวัฒนธรรมกันอย่างมากมาย นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการที่ ความเชื่อที่จำกัด นั้นปิดกั้นมนุษย์เรา จากโอกาสมากมาย
แต่นั่นก็เป็นความเชื่อเกี่ยวกับโลก สำหรับตัวเราเองนั้น ความเชื่อที่จำกัด เป็นเหมือนกับ “หินที่ทับรากของต้นไม้” ทำให้รากไม่สามารถแผ่ขยายได้อย่างเต็มที่ และสำหรับบางคนนั้นอาจไม่ได้มี ความเชื่อที่จำกัด เพียงแค่หนึ่งถึงสองความเชื่อ แต่มีมากจนความเชื่อเหล่านั้น ยึดโยงและกลายเป็นระบบความเชื่อที่ปิดกั้นเราไว้จาก ความสำเร็จทางอาชีพ
เหมือนกับหินก้อนใหญ่ที่ทับระบบรากของเราไว้เกือบทั้งหมด
แล้ว ความเชื่อที่จำกัด ได้แก่อะไรบ้าง เฮนรี่ ฟอร์ด กล่าวไว้ว่า ไม่ว่าคุณจะเชื่อว่าคุณทำได้ หรือเชื่อว่าคุณทำไม่ได้ คุณก็คิดถูกทั้งนั้น
เพราะความเชื่อจะตีกรอบมุมมองโลกของเรา เมื่อเราเชื่อว่า “เราไม่สามารถทำได้” เราก็จะมองเห็นแต่ทางเลือกที่จำกัดและไม่เห็นความเป็นไปได้อื่นๆ เห็นหรือยังคะว่า ความเชื่อที่จำกัด ทำอะไรกับเราได้บ้าง
ลองสำรวจตัวเองดูสิคะว่า คุณมีความเชื่อแบบนี้มากน้อยแค่ไหน
ความสงสัยในศักยภาพของตัวเอง
อีกกลุ่มหนึ่งของความเชื่อที่จำกัดคือความสงสัยในศักยภาพของตัวเราเอง เราทุกคนมีความฝัน แต่คนจำนวนน้อยที่สามารถทำความฝันที่ยิ่งใหญ่ให้เกิดเป็นความจริง นั่นก็เพราะว่า คนส่วนใหญ่มักจะสงสัยในศักยภาพของตัวเอง
เมื่อเราสงสัยตัวเองแบบนี้แล้ว บางทีเราก็ยอมรับผลลัพธ์ที่ต่ำกว่า ที่เราคู่ควรจะได้จริงๆ ความสำเร็จทางอาชีพ ก็ดูจะห่างไกลออกไปทุกทีๆ
“ฉันไม่มีวันทำได้!” ประโยคนี้บางคนก็พูดติดปากเลยทีเดียว ซึ่งคำพูดที่ตัดสิน ก็คือขีดจำกัด หรือความเชื่อที่จำกัด ซึ่งเราสร้างขึ้นมาให้กับตัวเอง
ตลอดชีวิต เราทุกคนต้องเจอกับเรื่องใหม่ ประสบการณ์ใหม่ ความท้าทายใหม่ แล้วถ้าเรามักจะพูดกับตัวเองแบบนี้ คุณว่าคุณจะพัฒนาตัวเองกับเรื่องใหม่ๆ ได้ช้าหรือเร็ว
ในเมื่อเรารู้แล้วว่า พลังของความเชื่อ นั้นส่งผลต่อความสำเร็จของเรามากขนาดไหน การปรับเปลี่ยนความเชื่อจึงเป็นหนึ่งในวิธีการที่สามารถยกระดับความสำเร็จของเราได้อย่างรวดเร็ว
แม้จะมีเทคนิคต่างๆ มากมายที่ทำงานกับความเชื่อของเราได้ แต่โค้ชเก๋ ปิยนุช ขอแนะนำ Time Line Therapy ® หรือเทคนิคเส้นเวลาบำบัด เพราะเป็นศาสตร์ที่สามารถพาคุณกลับไปแก้ที่ต้นเหตุหรือที่มาของความเชื่อเหล่านั้น จึงทำให้การปรับเปลี่ยนมุมมองและความเชื่อเกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว
เมื่อความเชื่อเราเปลี่ยนไป โลกที่เรามองเห็น ก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อมุมมองโลกเปลี่ยน การตอบสนองของเราก็จะเปลี่ยนไป และทำให้เราสามารถสร้างผลลัพธ์ที่เคยเป็นดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ ให้เกิดขึ้นได้เมื่อนั้นแหละเราจะเข้าใกล้ ความสำเร็จทางอาชีพ มากขึ้น
ความขัดแย้งภายใน
มาถึงตัวบั่นทอนศักยภาพอีกกลุ่มนะคะ คนที่มี ความขัดแย้งภายใน จะเหมือนมีตัวเราสองคนในตัว ที่ทะเลาะกัน ซึ่งความขัดแย้งภายในนี้ ทำให้เราทำอะไรไม่สุด คล้ายกับลูกธนูที่พุ่งออกไปแล้วมีเชือกผูกไว้ พอกำลังจะไปข้างหน้าเชือกก็ถูกกระตุกกลับ ทำให้เรามุ่งไปได้ไม่ไกล หรือไปไม่ถึงเป้าหมาย
อาการของคนที่มีความขัดแย้งภายในนั้น ได้แก่ คนที่มักจะตัดสินใจไม่ได้หรือตัดสินใจไม่เด็ดขาด ประมาณว่าใจหนึ่งก็อยากเลือกทางนี้ แต่อีกใจหนึ่งก็เสียดายอีกทางหนึ่ง
หรือบางคนก็ออกมาในพฤติกรรมเลย เหมือนไม้กระดก ลองสังเกตดูว่าคุณเป็นเช่นนี้หรือเปล่า สมมติว่า คุณต้องดูแลงานชิ้นหนึ่ง ใจหนึ่งก็อยากจะทำให้งานนั้นเสร็จ จะได้ผลลัพธ์ตามเป้า แต่พอตึงมากๆ และเกิดกระทบกับความสัมพันธ์ภายในทีม คุณก็จะกลายเป็นคนละคนไปเลย และมักจะเป็นอย่างนี้อยู่บ่อยๆ เดี๋ยวก็เน้นงาน เดี๋ยวก็เน้นคน
ถ้าหากว่า ใครที่มีลักษณะพฤติกรรมแบบนี้ โค้ชเก๋ บอกได้เลยว่า คุณคงมีบางอย่างที่ขัดแย้งอยู่ข้างในตัวเอง
แล้วเราจะแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในได้อย่างไร
หากคุณสังเกตว่าตัวเองเป็นแบบนี้ เราอยากจะคลี่คลายความขัดแย้งภายใน NLP (Neuro Linguistics Programming) หรือภาษาสมองมหัศจรรย์ คือศาสตร์ที่สามารถช่วยคุณได้ โดยการคลี่คลายความขัดแย้งภายใน
เริ่มจากการพาคุณเข้าไปสำรวจระบบความเชื่อและคุณค่าส่วนบุคคลของตัวตนทั้งสองของเราที่ขัดแย้งกันอยู่ข้างใน แล้วจึงทำให้เกิดการยอมรับซึ่งกันและกัน จนเกิดเป็นตัวตนใหม่ที่สอดคล้องลงตัว
เมื่อความขัดแย้งหายไป หรือไม่เกิดแรงต้านแล้ว จะทำให้เรามีพลังในการจะมุ่งไปข้างหน้าอย่างเต็มที่เหมือนลูกธนูที่ไม่มีเชือกมาดึงรั้งอีกต่อไป จึงสามารถพุ่งไปสู่เป้าหมายได้นั่นเอง
สำหรับตอนนี้ก็จบแล้วค่ะ ตอนหน้าเราจะมาทำความรู้จักกับตัวบั่นทอนศักยภาพกลุ่มสุดท้ายคือ นิสัยที่ขัดขวางความสำเร็จแล้วพบกันนะคะ สวัสดีค่ะ
โค้ชเก๋ ปิยนุช บุญมา คือผู้สร้างสรรค์เกมเข็มทิศอาชีพ และเกมกลยุทธ์อาชีพ เครื่องมือการโค้ชที่ช่วยให้คนปลดล็อกศักยภาพที่มีในตัว ในแนวทางที่สอดคล้องกับความเป็นตัวเรา และจุดเด่นที่เรามี
คลิกเพื่อรับชมวิดีโอ โดย โค้ชเก๋ ปิยนุช บุญมา ได้ที่นี่ค่ะ
https://business.facebook.com/CreateCareerSuccess/videos/303649227314162/
ชีวิตออกแบบได้…
รวมทั้งความสำเร็จของคุณด้วย